102003.com

ผัก ที่ กินดิบ ได้, [Thainewsonline - ไทยนิวส์ออนไลน์] ผัก 5 ชนิด ไม่ควรกินดิบ เสี่ยงอันตรายอาจถึงชีวิต ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสำนักโภชนาการ กรมอนามัยแล้ว

ถั่วฝักยาว อีกหนึ่งผักที่หลายคนมักคุ้นชินกับการทานแบบดิบ โดยเฉพาะในเมนูตำทั้งหลาย ซึ่งหลายคนอาจไม่เคยทราบมาก่อนว่าผักชนิดนี้คือผักที่จำเป็นต้องใช้ยาฆ่าแมลงในปริมาณมาก ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยเราจึงจำเป็นต้องทำความสะอาดและปรุงสุกก่อนทานผักชนิดนี้จะดีที่สุด เชื่อว่าสาวๆ หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับชนิดของผักที่ไม่ควรทานดิบกันมาบ้างแล้ว โดยเฉพาะผักบางชนิดที่เราแทบจะทานดิบกันเป็นประจำ เพราะด้วยเป็นผักที่มาพร้อมกับอาหารที่ควรทานควบคู่กันจึงไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่เพื่อความปลอดภัยต่อร่างกายของเราเอง แนะนำให้หลีกเลี่ยงจะดีที่สุด อาจจะทำให้อรรถรสในการทานอาหารลดลง แต่อย่างน้อยก็ปลอดภัยต่อร่างกายของเราเองนะคะ

บริษัท แอมวิช ยูนิเทค จำกัด

หลายวันก่อนเห็นการแชร์ต่อเกี่ยวกับ ผักดิบ 5 ชนิดที่ห้ามกินถ้าไม่อยากตาย ทำเอาสายเฮลท์ตี้นิยมกินผักสดถึงกับชะงักกันเลยทีเดียว ไม่นานความจริงก็เผย เมื่อ ผศ.

บริการทุกวันตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถึง 3 ทุ่ม กด คนทั่วไปสามารถทานดิบได้ แต่ผู้ป่วยโรคไฮโปไทรอยด์ ต้องระวังอย่างมาก เพราะสาร Goitrogen ใน กะหล่ำปลี จะทำให้ต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนได้ผิดปกติ 2. ดอกกะหล่ำ ดอกกะหล่ำถือได้ว่าเป็นพืชชนิดหัวอีกชนิดหนึ่ง ที่เราไม่สามารถนำมารับประทานแบบดิบ ๆ ได้ เพราะดอกกะหล่ำยังคงมีน้ำตาลชนิดหนึ่ง ที่ส่งผลกระทบต่อกลุ่มคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร ซึ่งจะไม่สามารถย่อยน้ำตาลชนิดนี้ได้ ส่งผลทำให้เกิดอาการท้องอืด และรู้สึกแน่นท้อง ซึ่งถ้าหากคุณรับประทานดอกกะหล่ำปรุงสุก คุณจะสามารถมั่นใจได้ ว่าคุณจะไม่พบเจอโทษจากดอกกะหล่ำ 3. บรอกโคลี เนื่องจากบรอกโคลี เป็นพืชตระกูลเดียวกันกับกะหล่ำปลี จึงมีน้ำตาลที่ส่งโทษทำให้เกิดอาการท้องอืดได้เช่นกัน หากมีการนำมารับประทานแบบดิบ ๆ อีกทั้งในบรอกโคลี ยังคงมีฮอร์โมนบางชนิด ที่กระตุ้นทำให้เกิดโรคไทรอยด์ได้อีกเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้น ผักอย่างบรอกโคลี จึงเป็นผักอีกหนึ่งชนิด ที่เราไม่ควรนำมารับประทานแบบดิบ ๆ ในปริมาณมากนั่นเอง 4. ถั่วฝักยาว การรับประทานถั่วฝักยาวแบบดิบ ๆ ในปริมาณมาก ค้นพบว่า ถั่วฝักยาว จะมีปริมาณไกลโคโปรตีน พร้อมทั้งเลคตินสูง สารชนิดนี้จะทำให้เกิดอาการ คลื่นไส้ อาเจียน และเกิดอาการท้องเสียได้ในระยะเวลา 3 ชั่วโมงได้นั่นเอง ทานดิบมีอันตราย กรณีที่มีการใช้ยาฆ่าแมลง เพราะสารพิษจะถูกดูดซิมในถั่วฝักยาวได้ง่าย (ตามช่องว่างระหว่างเมล็ด) ดังนั้นหากจะทานดิบ ควรหักเป็นท่อนๆ แล้วแช่น้ำทิ้งไว้ระยะเวลาหนึ่ง 5.

ผัก ที่ ห้าม กินดิบ - ผัก 5 ชนิด ที่ไม่ควรกินดิบ – 5 ผัก กินดิบแล้วอันตราย

พอดีจะทำน้ำผักปั่นดื่มพร้อมกาก เป็นมื้อเย็นแทนพวกเนื้อ และ เพิ่มกากในร่างกาย เลยไม่แน่ใจว่าผักชนิดใดที่สามารถกินดิบได้ (สาเหตุที่ กินดิบเพื่อให้วิตามินบางส่วนไม่สูญเสียไป) รบกวนผู้รู้ช่วยตอบทีครับ แสดงความคิดเห็น

5 หมื่นล้านบาทแล้วเมื่อคืนนี้!

คนชอบกินผักฟังไว้! 5 ผักสดเคียง "กินดิบได้ ปลอดภัยแน่" ถ้าทำตามแบบนี้

กระเทียม มีสารอัลลิซิน (Allicin) ช่วยต่อสู้กับเชื้อโรคและแบคทีเรีย ช่วยลดไขมันและความดันโลหิต พริก เป็นผักที่มีวิตามินซีสูง หากนำไปโดนความร้อนจะทำให้วิตามินซีเสื่อมสลายไปได้ง่าย หัวหอมใหญ่ วิตามินบีและวิตามินซีในหัวหอมจะถูกทำลายเมื่อโดนความร้อน อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะทานสดหรือทานสุก เราก็ควรจะให้ความสำคัญในเรื่องของการล้างทำความสะอาดผักมากๆ นะคะ เพื่อช่วยป้องกันการปนเปื้อนของยาฆ่าแมลง หรือสารเคมีอันตรายต่างๆ ที่อาจตกค้างอยู่ได้ TIPS: เชื่อไหมว่า การรับประทานผักใบเขียวสามารถลดความเครียดได้?! ถ้าอยากรู้ตามไปอ่านต่อได้เลย CLICK

จริงอยู่ว่าผัก-ผลไม้มีประโยชน์กับร่างกาย ทว่าสิ่งที่ต้องรู้เพิ่มไปอีกอย่างก็คือผักบางชนิดไม่ควรจะกินดิบ ๆ ในปริมาณที่มากเกินไป เนื่องจากอาจก่อโทษมากกว่าประโยชน์ได้ โดยเฉพาะกับผู้ป่วยบางโรค หรือเด็ก คนชรา สตรีมีครรภ์ ร่างกายจะมีกลไกกำจัดสารพิษได้น้อยกว่า ดังนั้นต้องระวังเรื่องการกินผักดิบไว้บ้าง อย่างผัก 9 ชนิดดังต่อไปนี้ที่หากกินดิบบ่อย ๆ อาจเป็นการสะสมสารอันตรายต่อร่างกายโดยที่ไม่รู้ตัว 1.

ผักที่กินดิบได้

ผักโขม คนทั่วไปกินดิบได้ แต่ผู้ที่มีภาวะการขาดธาตุเหล็ก และแคลเซียม ไม่ควรกินดิบ เนื่องจากผักโขมจะมีกรดออกซาลิก (Oxalic Acid) ซึ่งจะไปยับยั้งการดูดซึมธาตุเหล็ก และแคลเซียมจากอาหาร ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าผัก 5 ชนิดที่กล่าวมาข้างต้น มีเพียงบางชนิดเท่านั้นที่ไม่ควรรับประทานขณะยังดิบ ดังนั้น ก่อนจะกินอะไรก็ควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อน เพื่อความปลอดภัยต่อตนเอง และคนรอบข้าง

ผักแบบไหนกินดิบผักแบบไหนกินสุก

หน่อไม้ หน่อไม้ที่ไม่ผ่านการปรุงสุกมีสารพิษไซยาไนด์สูง จึงอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายสูงมาก ดังนั้นก่อนทานผักชนิดนี้จำเป็นที่จะต้องต้มในน้ำเดือดจัดอย่างน้อย 10 นาทีเพื่อเป็นการทำลายสารพิษไซยาไนด์เสียก่อน 5. มันสำปะหลัง การทานมันสำปะหลังแบบดิบหรือผ่านการปรุงแบบผิดวิธีอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ค่อนข้างสูง เนื่องจากมันสำปะหลังดิบมีสารพิษไซยาไนด์สูง หากทานเข้าไปแบบดิบจะทำให้เกิดอาการน้ำลายฟูมปาก แน่นหน้าอก และชัก บางรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ในที่สุด แม้แต่สัตว์ที่ทานมันสำปะหลังแบบดิบก็เกิดอันตรายได้เช่นกัน 6. มันฝรั่ง มันฝรั่งดิบมีสารพิษชนิดหนึ่งที่เรียกว่าไกลโคแอลคาลอยด์ ซึ่งสารพิษชนิดนี้จะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ใจสั่นและเต้นผิดจังหวะ บางรายถึงขั้นหัวใจล้มเหลวและเสียชีวิตตามมา ดังนั้นจึงไม่ควรทานผักชนิดนี้โดยไม่ผ่านการปรุงสุกเด็ดขาด 7. ถั่วงอก ถั่วงอกถือเป็นผักที่เรามักจะทานแบบดิบกันจนชิน แต่ทราบหรือไม่ว่าผักชนิดนี้ทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อการรับแบคทีเรียซัลโมเนลาและแบคทีเรียอีโคไล ซึ่งแบคทีเรียทั้งสองชนิดนี้ทำให้เกิดอาการท้องเสียและถ่ายท้องอย่างรุนแรงได้ ที่สำคัญถั่วงอกมักผ่านการใส่สารฟอกขาวเพื่อให้มีสีที่น่าทาน ซึ่งจัดเป็นสารที่มีอันตรายต่อสุขภาพอีกด้วย 8.

  • เครื่อง jo8c 210 ราคา มือสอง
  • ให้โทษมากกว่าประโยชน์ เช็คชื่อ ผัก 12 ชนิดที่ไม่ควรกินดิบ เตือนแล้วนะ !
  • เครื่อง อัด แผ่น ไม้ไผ่
  • ผักที่กินดิบได้
  • บริษัท แอมวิช ยูนิเทค จำกัด
  • จส. 100
  • รวมเพลงเสือสองเล
  • เพลง devil trigger suspension
  • Hp elite dragonfly ราคา graphics

7 ผักไม่ควร กินดิบ! สยามรัฐ

แคร์รอต แคร์รอต เป็นผักที่มีเบตาแคโรทีนสูงมากในลำดับต้นๆ ของผักประเภทสีส้ม สีเหลือง ซึ่งการ กินแบบสุก จะทำให้เราได้รับประโยชน์จากเบต้าแคโรทีน อย่าง สารต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ช่วยป้องกันโรคเรื้อรังต่างๆ ที่เกิดจากการอักเสบในร่างกายได้เต็มที่ เนื่องจากความร้อนจะไปทำลายผนังเซลล์ของแคร์รอตทำให้การดูดซึมของร่างกายเป็นไปได้ดีมากขึ้น โดยแคร์รอตสุกจะมีเบต้าแคโรทีนเพิ่มขึ้นร้อยละ 34 3. พริก พริกต่างๆ นั้น เราควรจะกินแบบดิบ เนื่องจากพริกอุดมไปด้วยสารอาหารประเภทวิตามินซีสูง หากนำไปโดนความร้อนจะทำให้วิตามินซีเสื่อมสลายไปได้ง่าย โดยวิตามินซีจะมีประโยชน์ในการสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และเสริมสร้างคอลลาเจนที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างผิวหนังให้ดูยืดหยุ่น และสดใสมากขึ้น ปริมาณวิตามินซีในพริก 100 กรัม - พริกหวานดิบ จะมีวิตามินซี 70 มิลลิกรัม - พริกหยวก จะมีวิตามินซี 50 มิลลิกรัม - พริกขี้หนูดิบ จะมีวิจามันซี 40 มิลลิกรัม 4. ผักตระกูลกะหล่ำ ผักตระกูลกะหล่ำ เช่น กะหล่ำปลี บล็อกโครี่ คะน้า ฯลฯ เราควรจะกินกันแบบสุก จะทำให้ได้รับประโยชน์ ไม่ว่าจะกากใยอาหารที่มีอยู่สูง ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบซึ่งจะป้องกันเซลล์มะเร็งในร่างกายได้ ซึ่งการกินแบบดิบจะทำให้เกิดแก๊สในระบบทางเดินอาหารได้ ดังนั้น ใครที่มีปัญหาเรื่องระบบทางเดินอาหารจึงควรหลีกเลี่ยงแบบดิบ ทั้งนี้ ใครที่มีปัญหาการทำงานของต่อมไทรอยด์บกพร่อง ก็ควรหลีกเลี่ยงผักตระกูลกะหล่ำ เนื่องจากมีสาร Goitrogen ที่ยับยั้งการดูดซึมไอโอดีนทำให้ต่อมไทรอยด์ผลิตโฮร์โมนได้น้อยลงนั่นเอง 5.