ใช้โดดๆ แปลว่า หรือ ไม่ มักจะใช้ในคำประพันธ์ เช่น ฤๅ จะมี = หรือจะมี 2. ใช้เป็นพยางค์หน้าหรือหลังของคำที่มาจากสันสกฤต เช่น ฤดู ฤดี ฤชา 3. ให้ประสมกับพยัญชนะ คล้ายกับตัว ร ควบเฉพาะคำที่มาจากบาลีสันสกฤตและคำแผลงบางคำ เช่น ปฤจฉา กฤษณา ทฤษฎี พยางค์ที่ใช้สระ ฤๅ สระ ฤๅ มีวิธีใช้ดังนี้ 1. คำโดดๆไม่ประสมกับพยัญชนะ แปลว่า หรือ อะไร ไม่ ไม่ใช่ โบราณใช้ทั้งในร้อยแก้วและคำประพันธ์ แต่บัดนี้นิยมใช้แต่ในคำประพันธ์เท่านั้น เช่น ฤๅเบา ทำฤๅ ตนฤๅ 2.
คำที่แผลงจากคำต่างๆ เช่น กษัย-กระษัย สกุล-ตระกูล ตุลาการ-ตระลาการ คำที่ไม่ต้องประวิสรรชนีย์ 1. คำไทยบางคำ เช่น ณ ธ พณ 2. คำที่ออกเสียงสระ อะ เพียงครึ่งเสียง และคำที่ออกเสียงแบบอักษรนำ เช่น กนก ขนาด ขยะ 3. คำที่เพิ่มตัว ม หน้า ตัว ล ที่ใช้ในการแต่งคำประพันธ์ เช่น ลวก-มลวก ลิ้น-มลิ้น ลาน-มลาน 4. คำเดิมที่ไม่ประวิสรรชนีย์ แล้วแผลงคำโดยการเพิ่มตัว ร เช่น ชอุ่ม-ชรอุ่ม ชไมขชรไม จมูกขจรมูก 5. คำบาลีสันสกฤตที่ออกเสียง อะ ในระหว่างคำ เช่น คณะ สรณะ ขณะ 6. คำที่มาจากภาษาอังกฤษ ที่พยัญชนะต้นเป็นพยัญชนะประสม เช่น สลัม สแลง สลุต พยางค์ที่ออกเสียงสระ ออ 1. คำภาษาไทยที่ประสมกับสระออโดยมีตัว ออ กำกับ เช่น พ่อ ท่อ หม้อ 2. คำภาษาไทยที่ไม่มีตัว ออ กำกับ เช่น บ บ่ 3. คำภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาบาลีสันสกฤต เช่น ฮ้อ นอต ลอร์ด 4. คำที่มาจากภาษาบาลีสันสกฤตที่ประสมตัว ร ครไทยออกเสียงเป็นตัวสะกด เช่น กร จร นคร ออกเป็นเสียง ออ เช่นจรลี ทรชน หรดี พยางค์ที่ออกเสียงสระ เออ ปัจจุบันใช้สระเออที่มีตัวสะกด คงรูปเพียงสองคำ คือ เทอญและเทอม นอกนั้นเป็นคำที่ใช้สระเออ เปลี่ยนรูป เช่น เดิน เพลิน เกิน พยางค์ที่ออกเสียงสระ อำ พยางค์ที่ออกเสียงอำ เขียนได้ 3 รูป คือ อำ อัม และ อรรม มีวิธีการเขียนดังนี้ 1.